เอาน้องปาดีเซล 4WD ไปติดแก๊สแล้วครับ รูป หน้า 2 สรุปอัตราสิ้นเปลือง หน้า 13

[tontawan]

รายงานความประหยัดหน่อยครับป่า

[SKPG]

สุดยอดมากครับ ขอบคุณสำหรับข้อมูล
 

[jerd]

กระทู้ฮ๊อตแบบนี้ น่าจะเปิดห้องพลังงานทดแทนอีกสักห้อง หรือปักหมุด ไว้นะคร๊าบ จะได้ไว้ให้สมาชิกติดตาม ป๋าๆ ว่างัยครับ
ติดแล้วถ้ากินน้ำมันสัก 25 กม/ลิตร  +  LPG สัก 30 กม/ลิตร ผมว่าก็ประหยัดตังค์ในกระเป๋าไป กม.ล่ะบาทกว่าๆ วิ่งปีหนึ่งก็คืนทุนแล้วครับ
ถ้าติดแล้วเครื่องยนต์ไม่มีปัญหา ก็น่าสนใจไม่น้อย รวมๆ กันไปทำน่าจะต่อลองให้ได้ราคาถูกกว่านี้ครับ 

[teddyisman]

อัตราประหยัดของ PJS เมื่อคิดว่าจูนได้เนียนสุดๆแล้ว
 น้ำมัน จาก 10 KML => 20 KML  บวกค่าแก๊ส กมละ 50 สตางค์  สรุป ประหยัด กม.ละ 50 สตางค์ พอใจแล้ว เพราะใช้รถเยอะ
แต่ได้ความแรง  พยายามจูนอัพ ให้ประหยัดกว่านี้ แต่เครื่องน๊อก  ก็เลยไม่โลภมาก เดี๋ยวจะเสียมากแทนที่จะประหยัด

ที่บอกว่า triton น้ำมันได้ 30 KML คงจะรถยางเล็ก และ ไม่บรรทุก   ออกตัวแบบเนียนๆ ไม่ขับเร็ว ส่วนที่บอกว่า 45 KML นั้นดูจาก smart gauge
ผมว่ามันสุ่มคำนวณบางช่วง  ยังไงก็คงสู้การเก็บข้อมูล 2-3 หมื่นโล แล้วเอายอดมาคำนวณ ใกล้ความจริงกว่า

PJS ไม่มีทางทำให้ประหยัดได้เกิน 25 KML หรอกครับ ถ้าได้จริง คงขับระวังมาก และ เครื่องคงไปไว

[noppadol1411]

  

     ได้ประมาณ 15 กิโลเมตร ต่อ ลิตร เต็มที่ สำหรับน้องปา เอาแบบปลอดภัยเครื่องไว้ก่อน แก๊สเข้ามากกว่านี้เกรงว่าจะมีการเขก ความร้อนขึ้นสูง บ่าวาล์วไปก่อน
  1,000 รอบเครื่องยนต์ แก๊สแอลพีจี จ่าย  4,000 รอบเครื่องยนต์ (ประมาณ 180 กิโลเมตร/ชั่วโมง) = ไม่มีใครกล้าขับความเร็วขนาดนั้น  แก๊สแอลพีจี ตัดการจ่ายแอลพีจีแก๊ส (ป้องกันความร้อนขึ้นสูง)
  การปรับปั๊มหัวฉีดดีเซลน้องปากินน้ำมันน้อยลง ไม่เป็นสิ่งที่สมควรทำ (ผิด spec) ไม่สมควรไปแตะต้องเด็ดขาด
     เทคนิคการปรับ/จูนแก๊ส ต้องอาศัย อุปกรณ์ของ Aerotec หรือ DJ Box ครบชุด และ ฝีมือของช่างขั้นเทพอย่างเดียว (ติดต่อน้องปาด้วยคอมพิวเตอร์)
      ประหยัดหมายความว่า ได้มากกว่า 10 กิโลเมตร ต่อลิตร ถึงแม้จะเสียค่าแก๊สเพิ่ม อย่างไง ก็ถือว่าประหยัดกว่าเดิม (ราคาแก๊สมันถูกกว่า)
     สำคัญว่า อย่าคิดมากเรื่องราคา 30,000.- ถือ ว่า ซื้อทรัพย์สิน ส่วนควบของรถ มาใช้งานก็แล้วกัน
      ราคาถูกกว่านี้ก็มี แต่เป็นอีก 1 ร้าน นั้น คือ ร้านน้องเอก (แต่ต้องดูเงื่อนไข ให้ดี นั้น คือ ขนาดถังที่แตกต่างกันไป ระหว่าง 36 ลิตร กับ 58 ลิตร)  
        ให้โทรคุยกันเองครับ พี่ไม่ได้ค่าโฆษณา นอกจากมาเล่าสู่กันฟัง

     สิ่งที่ตามมาหลังจากติดแก๊สแอลพีจี.ระบบนีไปแล้ว
       1.  ประกันเครื่องยนต์ปาเจโร่กับบริษัท มิตซูบิชิ จำกัด  หายไปกับตา
       2.  ต้องแจ้งไฟแนท์ (กรณีติดผ่อนชำระ) ให้รับทราบถึงการติดแก๊ส เพิ่มเชื้อเพลิงอีก 1 ชนิด
       3.  ประกันภัยรถชั้นหนึ่งยังใช้งานได้อยู่ แต่ต้องแจ้งประกันภัยรับทราบ เพื่อไปเพิ่มเงื่อนไขในกรมธรรม์ (คุ้มครองการติดแก๊สด้วย) =  ไม่เสียเงินเพิ่ม
      
    ที่เสียเงินเพิ่ม คือ การแจ้งกรมการขนส่ง ขอเพิ่มการใช้เชื้อเพลิงแก๊สแอลพีจี. ในสมุดคู่มือทะเบียนภาษีรถ  งานนี้ไฟแนท์วิ่งเรื่องให้ สิ่งต้องใช้
      1.  เงินค่าวิ่ง บวก ค่าตรวจสภาพการติดตั้ง (รถใหม่ก็ต้องตรวจ / เขาดู 2 จุด คือ เลขถังแก๊ส และ เลขคัทซี) เจ้าหน้าที่เชื่อใบวิศวกรรม ที่เรานำติดตัวไปแสดง ประมาณ 6 - 7 เอกสาร  ใช้เวลาเร็วมาก ไม่เกิน 5 นาที
           ไม่เกิน 1,000.-  แล้วแต่ไฟแนท์เรียกเก็บ (อันที่จริงเพียงแค่ 700.- เอง)
              นอกจ่ากเสียค่าปรับอีก 200.- (ยื่นช้าเกิน 15 วัน จากวันที่ที่ออกใบอนุญาต มันเป็นระเบียบเขา เสียเงินกันทุกคน เพราะคิวไฟแนท์มันยาวมาก)
      2.  ตรวจสภาพระบบแก๊สทุก 1 ปี (มีเอกสารรับรองการตรวจ)
      3.  ตรวจสภาพถังแก๊ส ทุก 5 ปี ต่ออายุได้ไม่เกิน 1 ครั้ง = 10 ปี (หลังจากนั้นอาจจะถูกทุบถังแก๊สได้)

            ลองดูครับ ติดตั้งแก๊สไม่ใช่เรื่องน่ากลัว รถที่บ้าน ที่บริษัทฯติดแก๊สทุกคัน ใช้ energy  reform และ versus

           ที่พวกเรากลัวกัน คือ น้องปาราคา 1 ล้านสองกว่าๆ  และ ระบบนี้เป็นระบบใหม่ ยังไม่ค่อยคุ้นเคยกัน 4 ล้อ  6 ล้อ 10 ล้อ 18 ล้อ รถทัวร์ รถบัส เขาติดกันมานานแล้ว ส่วนใหญ่จะใช้ NGV.
      ได้จำนวนกิโลเมตรมากกว่า แก๊สแอลพีจี เสียอีก แต่ราคาแพง 5 หมื่นขึ้น ครับ
          
    
            

[เอกเอนกประสงค์ No.32]

 

     ได้ประมาณ 15 กิโลเมตร ต่อ ลิตร เต็มที่ สำหรับน้องปา เอาแบบปลอดภัยเครื่องไว้ก่อน แก๊สเข้ามากกว่านี้เกรงว่าจะมีการเขก ความร้อนขึ้นสูง บ่าวาล์วไปก่อน
  1,000 รอบเครื่องยนต์ แก๊สแอลพีจี จ่าย  4,000 รอบเครื่องยนต์ (ประมาณ 180 กิโลเมตร/ชั่วโมง) = ไม่มีใครกล้าขับควสามเร็วขนาดนั้น  แก๊สแอลพีจี ตัดการจ่ายแอลพีจีแก๊ส (ป้องกันความร้อนขึ้นสูง)
  การปรับปั๊มหัวฉีดดีเซลน้องปากินน้ำมันน้อยลง ไม่เป็นสิ่งที่สมควรทำ (ผิด spec) ไม่สมควรไปแตะต้องเด็ดขาด
     เทคนิคการปรับต้องอาศัย อุปกรณ์ของ Aerotec หรือ DJ Box ครบชุด และ ฝีมือของช่างขั้นเทพอย่างเดียว (ติดต่อน้องปาด้วยคอมพิวเตอร์)
      ประหยัดหมายความว่า ได้มากกว่า 10 กิโลเมตร ต่อลิตร ถึงแม้จะเสียค่าแก๊สเพิ่ม อย่างไง ก็ถือว่าประหยัดกว่าเดิม (ราคาแก๊สมันถูกกว่า)
     สำคัญว่า อย่าคิดมากเรื่องราคา 30,000.- ถือ ว่า ซื้อทรัพย์สิน ส่วนควบของรถ มาใช้งานก็แล้วกัน
      ราคาถูกกว่านี้ก็มี แต่เป็นอีก 1 ร้าน นั้น คือ ร้านน้องเอก (แต่ต้องดูเงื่อนไข ให้ดี นั้น คือ ขนาดถังที่แตกต่างกันไป ระหว่าง 36 ลิตร กับ 58 ลิตร)  
        ให้โทรคุยกันเองครับ พี่ไม่ได้ค่าโฆษณา นอกจากมาเล่าสู่กันฟัง

     สิ่งที่ตามมาหลังจากติดแก๊สแอลพีจี.ระบบนีไปแล้ว
       1.  ประกันเครื่องยนต์ปาเจโร่กับบริษัท มิตซูบิชิ จำกัด  หายไปกับตา
       2.  ต้องแจ้งไฟแนท์ (กรณีติดผ่อนชำระ) ให้รับทราบถึงการติดแก๊ส เพิ่มเชื้อเพลิงอีก 1 ชนิด
       3.  ประกันภัยรถชั้นหนึ่งยังใช้งานได้อยู่ แต่ต้องแจ้งประกันภัยรับทราบ เพื่อไปเพิ่มเงื่อนไขในกรมธรรม์ (คุ้มครองการติดแก๊สด้วย) =  ไม่เสียเงินเพิ่ม
      
    ที่เสียเงินเพิ่ม คือ การแจ้งกรมการขนส่ง ขอเพิ่มการใช้เชื้อเพลิงแก๊สแอลพีจี. ในสมุดคู่มือทะเบียนภาษีรถ  งานนี้ไฟแนท์วิ่งเรื่องให้ สิ่งต้องใช้
      1.  เงินค่าวิ่ง บวก ค่าตรวจสภาพการติดตั้ง (รถใหม่ก็ต้องตรวจ / เขาดู 2 จุด คือ เลขถังแก๊ส และ เลขคัทซี) เจ้าหน้าที่เชื่อใบวิศวกรรม ที่เรานำติดตัวไปแสดง ประมาณ 6 - 7 เอกสาร  ใช้เวลาเร็วมาก ไม่เกิน 5 นาที
           ไม่เกิน 1,000.-  แล้วแต่ไฟแนท์เรียกเก็บ (อันที่จริงเพียงแค่ 700.- เอง)
              นอกจ่ากเสียค่าปรับอีก 200.- (ยื่นช้าเกิน 15 วัน จากวันที่ที่ออกใบอนุญาต มันเป็นระเบียบเขา เสียเงินกันทุกคน เพราะคิวไฟแนท์มันยาวมาก)
      2.  ตรวจสภาพระบบแก๊สทุก 1 ปี (มีเอกสารรับรองการตรวจ)
      3.  ตรวจสภาพถังแก๊ส ทุก 5 ปี ต่ออายุได้ไม่เกิน 1 ครั้ง = 10 ปี (หลังจากนั้นอาจจะถูกทุบถังแก๊สได้)

            ลองดูครับ ติดตั้งแก๊สไม่ใช่เรื่องน่ากลัว รถที่บ้าน ที่บริษัทฯติดแก๊สทุกคัน ใช้ energy  reform และ versus
    
            

  ขอบคุญสำหรับขอมูลครับ ....

[noppadol1411]

  
   ช่างจอมแห่งค่าย 41 Auto Gas  Chiangmai  ใช้ ECU DJ.Box  กำลังปวดหัวกับน้องปาได้ระยะทางไม่เกิน 15 กิโลเมตร ต่อ ดีเซล 1 ลิตร รถยี่ห้ออื่นๆ ได้เกือบ 20 หรือ 20 กว่าๆ (รถ 4 ล้อ บรรทุกเต็มคัน)
  อย่างไง ? พี่กำลังรอคำตอบจากน้องเก่ง และ ช่างอโนทัยแห่งค่าย ECU AEROTEC ว่า น้องปาจะทำระยะทางได้มากกว่า 15 กิโลเมตร หรือ ไม่ ? รอลุ้น
   วิธีทดสอบต้องเอาน้ำมันดีเซล ใส่ขวดน้ำดื่ม ตามลิงค์แนบท้าย
       http://www.youtube.com/watch?v=bhyJHTXFeYw&feature=related

       http://www.youtube.com/watch?v=2sq9ePLMEIE&feature=relmfu

       http://www.youtube.com/watch?v=4xFPwoBo9wQ&feature=related
      
       http://www.gasthai.com/boardgas/question.asp?id=49585

       http://www.iwebgas.com/smf/index.php?board=12.0
 
   แต่ถ้าไม่คิดอะไรมาก 15 กิโลเมตร ก็ 15 กิโลเมตร (ดีกว่าอยู่เปล่า เชิญเสียตังค์ได้เลยครับ เสียเงินก่อน ทำก่อน  ประหยัดเงินในกระเป๋าก่อน)
  
   พี่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อนตอนติดแก๊สแอลพีจี กับ วีออส(เบนซินนะครับ) ใช้มาประมาณ 1 ปี คืนทุน energr reform 26,000.- ตั้งนานแล้ว รถอะไรแสนจะประหยัดตังค์  อ๋อ รู้แล้ว เพราะใช้แอลพีจีแก๊ส นี้เอง

[noppadol1411]

   น้องปาเราเป็นเครื่องยนต์ดีเซล เกียร์ออโต น้ำหนักเกือบ 2 ตัน ได้ 15 กิโลเมตร / ลิตร ถือว่า หรูแล้วครับ

[noppadol1411]

    ปาเจโร่ สปอร์ต รุ่นปัจจุบันปรับโฉมที่มาพร้อมกับไทรทันรุ่นปรับโฉม และแน่นอนว่ามากับเครื่องยนต์รุ่นใหม่ที่มาแทนเครื่อง 3.2 ลิตรไปพร้อมกัน โดยเครื่องยนต์ 3.2 ลิตรตัวเดิม แม้จะขึ้นชื่อเรื่องพละกำลัง แต่ก็หนักเอาเรื่องสำหรับอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมัน

ตอนที่ลองขับเครื่องยนต์ใหม่ในไทรทัน เคยบอกเอาไว้ว่าเครื่องยนต์ 178 แรงม้าที่ติดตั้งมาในเครื่องใหม่นั้นให้กำลังแรงเอาเรื่อง กดเรียกกำลังมาแบบเอาเรื่อง เมื่อมาติดตั้งในรถที่ใหญ่กว่า หนักกว่า อุปกรณ์ครบครันกว่า ต้องพิสูจน์ว่าจะยังเอาเรื่องอยู่เหมือนเดิมหรือเปล่า

มาดูสเปกของเครื่องยนต์กันอีกรอบ เครื่องยนต์ดีเซล 2.5 ลิตร ดีไอ-ดี ไฮเปอร์คอมมอนเรล 4 สูบ 16 วาล์ว มาพร้อมวีจี เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ พร้อมท่อร่วมไอดี ให้กำลังสูงสุด 178 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที สูงสุดในบรรดาเครื่องยนต์ระดับเดียวกัน ซึ่งในรุ่นเกียร์อัตโนมัติมาพร้อมแรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800–3,500 รอบต่อนาที

ก็ต้องยอมรับครับว่าเมื่อเปลี่ยนมาติด ตั้งในรถที่น้ำหนักเฉี่ยวๆ 2 ตัน ทำให้อาการของรถดูเหมือนว่าจะอืดไปสักเล็กน้อย โดยเฉพาะการวิ่งที่รอบต่ำ หรือในช่วงของจังหวะออกตัว

อย่างที่จั่วหัวไว้ครับ ขอแค่ทำความรู้จักกับรถคันนี้ให้ถ่องแท้ คุณก็จะพบว่าการลากรอบเครื่องไปให้ถึง 1,800-2,000 รอบต่อนาที จะเปลี่ยนแปลงบุคลิกของรถไปอย่างมาก อาการอืดที่ว่าเหมือนจะโดนสลัดทิ้งออกไปในทันทีทันใด และก็กลับมาเป็นรถที่ใช้เวลาแค่ชั่วอึดใจเดียวลากผ่านหลัก 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงไปได้ไม่ยาก และถ้ายังมั่นใจกับการควบคุมรถของตัวเองอยู่ความเร็วระดับ 170-180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็นสิ่งที่หาได้จากเอสยูวีคันเบ้อเริ่มเทิ่มคันนี้

แม้จะเป็นรถยนต์ขับเคลื่อน 2 ล้อ แต่ช่วงล่างของปาเจโร่ สปอร์ต ให้ความรู้สึกมั่นคงและไว้วางใจได้ แม้ในช่วงความเร็วสูงมากจะออกอาการส่ายเล็กน้อย แต่ก็ไม่อยู่เหนือกว่าการควบคุม พวงมาลัยวงเลี้ยวแคบเพียง 5.6 เมตร ช่วยให้การเดินทางในเมืองเป็นไปได้อย่างสะดวกสบาย กลับรถก็ไม่ไปกินเลนชาวบ้านให้โดนมองเหล่ด้วยหางตา

อุปกรณ์ภายในมีมาให้อย่างเต็มที่ ทั้งเครื่องเล่นซีดี/ดีวีดี/เอ็มพี 3 พร้อมจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว ที่ยังยืนยันว่าไม่ค่อยเป็นมิตรกับคนที่ซื้อรถมาขับใหม่ๆ สักเท่าไรนักเหมือนเดิม เบาะนั่งแถว 2 ล็อกตำแหน่งไม่สามารถขยับมาด้านหน้าได้ ขณะที่เบาะที่นั่งแถว 3 ดูตั้งชันและคับแคบไปสักเล็กน้อย นั่งนานๆ แม้จะเป็นสาวๆ ก็อาจจะบ่นได้เหมือนกัน

อัตราสิ้นเปลืองของเครื่องวีจี เทอร์โบ เมื่อมาแบกน้ำหนักของปาเจโร่ สปอร์ต และฝีมือการขับขี่แบบตามใจฉัน คิดจะเฉื่อยก็เฉื่อย คิดจะรีบก็รีบ เมื่อถึงกำหนดเวลาเอาไปคืน คำนวณทุกอย่างแล้วจบตัวเลขที่ระดับ 9-10 กิโลเมตรต่อลิตร ถือว่าน่าประทับใจ เมื่อคิดว่าการสิ้นเปลืองระดับนี้ แลกกับสมรรถนะและความสะดวกสบายต่างๆ นานา

สนนราคาค่าตัวอยู่ที่ 1.142 ล้านบาท สำหรับรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ และบวกเพิ่มอีก 1.5 หมื่นบาท หากต้องการสีพิเศษอย่างสีขาวมุก ที่กำลังฮอตฮิตกันทั่วเมือง ราคาห่างจากรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่ราคาพุ่งไปสุดที่ 1.3 ล้านกว่าบาทพอสมควร ซึ่งในชีวิตจริงกลุ่มลูกค้าที่ใช้รถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้ออย่างจริงจังคงมีอยู่ไม่มากเท่าไร

บอกแล้วไงว่าขอแค่มีเวลาทำความรู้จัก แล้วจะรักเกือบทั้งคัน...จริงๆ นะครับ!!!

[noppadol1411]

    ระบบ LPG +  Diesel 
       ให้ตามลิงค์นี้ไปครับ
             http://www.youtube.com/watch?v=pf9P6APHfpQ

[noppadol1411]

  
      ให้ตามลิงค์นี้ไปครับ
          ของดีๆทั้งน้าน ติดต่อคุณสมพร 0814489086  0863229068  
           อุปกรณ์หม้อต้ม อีซียู ของนำเข้าจากอเมริกา
               http://www.healthfood-th.com/bioelect.html#ad1

[KengEVO5 (No.521)]

ขออภัยที่รายงานผลช้านะครับ   

หลังจากติดแก๊สมาแล้ว  วิ่งไปได้ระยะทางประมาณ 200++ ก.ม. แล้ว  (ในเมือง)   อัตราการประหยัดจึงยังไม่เห็นเด่นชัด 

ระบบดีเซล + LPG นี่ จะเห็นผลการประหยัดชัดเจนก็ต่อเมื่อรถวิ่ง    ในกรุงเทพฯ รถติดไฟแดงนานๆอย่างนี้ ไม่เห็นผลครับ

เนื่องจาก  ระบบนี้  แก๊ส LPG จะจ่ายตามคันเร่ง (มีสวิชอยู่ที่คันเร่ง)  ถ้ารถหยุดนิ่ง หรือที่รอบเดินเบา  จะใช้น้ำมันล้วน เพื่อป้องกันแก๊สเกิน     จนกว่าคุณจะเหยียบคันเร่งอีกครั้ง เกิดแรงดูดในท่อไอดี แก๊สถึงจะปล่อยออกมา

ดังนั้น ส่วนตัวคิดว่า หากใช้ระบบครูซคอนโทรล แก๊สคงจะไม่ฉีดออกมา เพราะไม่ได้กดสวิชตรงคันเร่ง

เท่าที่จับความรู้สึกตอนนี้  อัตราเร่งดีขึ้นมาก เรียกว่ากระฉับกระเฉงขึ้นเยอะ  ตอนเร่งแซง หรือตอนออกจากไฟแดง รถจะพุ่งออกไปเลย ยิ่งเหยียบมาก แก๊สยิ่งปล่อยออกมามาก

วิธีทดสอบว่า  แก๊สเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องยนต์อย่างไร  วันนี้จึงไปทดสอบและจูนอีกครั้งกับช่าง  ลองอัดเต็มๆ บนทางด่วนศรีสมาน-บางปะอิน  เหยียบมิด  พุ่งทะยานขึ้นไปเกิน 160 ก.ม./ช.ม. เร็วมาก (ลืมจับเวลา มัวแต่ตื่นเต้น)   เครื่องไม่ร้อน  ไม่เขก   ถือว่าสอบผ่าน

และทดลองเหยียบแช่ไว้ที่ 120 ก.ม./ช.ม. ในโหมดแก๊ส   จากนั้นก็กดปิดแก๊สทันที (เท้ายังอยู่ตำแหน่งเดิม) ปรากฎว่า รอบเครื่องยนต์ตกลงทันที  แสดงว่าแก๊สเพิ่มพลังให้เครื่องยนต์ได้จริง  ใช้น้ำมันน้อยลงจริง  แต่จะวัดเป็นกี่เปอร์เซ็นต์นั้น ยังสรุปไม่ได้ครับ   

[noppadol1411]

     ดีใจจังที่สอบผ่าน ประหยัดเท่าใดนั้น ต้องทดสอบด้วยการเติมน้ำมันดีเซลสัก 2 ลิตร ใส่ในขวดน้ำเพ็ทขนาด 2 ลิตร เหมือนกระทู้ข้างบนที่ลิงค์ไปหา you tube
  ขอบคุณครับคุณเก่ง
     แค่นี้เราก็ทราบผลแล้วครับ
 

[noppadol1411]

  

   การทดสอบระบบ DDF เห็นผลกันแบบ จะจะ
         ให้ตามลิงค์นี้ไป http://www.iwebgas.com/smf/index.php?topic=3766.0

[noppadol1411]

  ระบบ DDF  ให้ตามลิงค์นี้ไปครับ
         http://www.iwebgas.com/smf/index.php?topic=27.150