Languages
หน้า: 1 2 [3]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ลองใช้เกียร์แพดเดอร์ชิพ และครูชคอลโทรล  (อ่าน 16347 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
chakkaran
Newbie
*

like: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8


« ตอบ #30 เมื่อ: มิถุนายน 03, 2012, 12:10:15 pm »

เสียดาย แพดเดอร์ชิพของเราไม่มี
แต่ครูซคอลโทรลผมเคยลองใช้ตอนออกต่างจังหวัด แต่รถเยอะ ทำให้เมื้อยขามากกว่าปรกติ คือไม่รู้จะเอาเท้าไปไว้ตรงไหนดี เลยออก อาการเกร็งกลัวจะเบรกไม่ทัน สรุปแล้วไม่ได้ใช้เลย  Sad
บันทึกการเข้า

Mayurin
Sr. Member
****

like: 78
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1695



« ตอบ #31 เมื่อ: มิถุนายน 03, 2012, 12:20:13 pm »

เสียดาย แพดเดอร์ชิพของเราไม่มี
แต่ครูซคอลโทรลผมเคยลองใช้ตอนออกต่างจังหวัด แต่รถเยอะ ทำให้เมื้อยขามากกว่าปรกติ คือไม่รู้จะเอาเท้าไปไว้ตรงไหนดี เลยออก อาการเกร็งกลัวจะเบรกไม่ทัน สรุปแล้วไม่ได้ใช้เลย  Sad
     ทดลองใช้ที่ความเร็วต่ำๆก่อนครับเพื่อความเคยชิน เวลาท่านเซทความเร็วแล้วสามารถเพิ่มความเร็วทีละน้อยคือประมาณ 1.5 กม/ชม
ได้ทั้งเพิ่มและลด (ปู่ม + -) ส่วนความกลัวว่าจะเบรคไม่ทัน ไม่มีปัญหาครับ ถ้าเราแตะเบรคระบบจะตัดครุยทันทีครับ
บันทึกการเข้า
Spj_BMW
Newbie
*

like: 1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 159


**ครอบครัวต้องมาก่อน**


อีเมล์
« ตอบ #32 เมื่อ: มิถุนายน 03, 2012, 01:00:23 pm »

ถ้าป๊าฝึกใช้ให้คร่อง ใช้ทุกปุ่มให้ชินป๊าจะรู้ว่ามันสบายจริงๆ ทีนี้ป๊าไปขับรถที่ไม่มีครูซออกต่างจังหวัดป๊าจะคิดถึงมันครับ
เราไม่ควรใช้ครูซ ที่ความเร็วสูงๆเพราะมันอันตรายครับ
บันทึกการเข้า
sab-racing
ID No.1045
Hero Member
*****

like: 89
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2337



« ตอบ #33 เมื่อ: มิถุนายน 03, 2012, 01:27:26 pm »

สรุป การใช้งาน ตามที่ท่านๆข้างบนได้อธิบายไว้นะครับ
ระบบนี้จะทำงานที่ความเร็วเกิน 40กม./ชม. ขึ้นไป

1.เปิดระบบครูช
-กดปุ่ม A ไฟสีเขียว cruise ติดที่มุมบนหน้าปัทม์ซ้าย

2.เมื่อวิ่งด้วยความเร็วที่ต้องการ กดปุ่ม B เพื่อจำค่า รอ 2-3วินาที ยกขาออกจากคันเร่งมานั่งพับเพียบได้เลย (ล้อเล่นครับ ไม่ควรทำ)
ถึงตอนนี้รถจะวิ่งด้วยความเร็วคงที่ไปตลอดเส้นทาง
เราสามารถเพิ่มความเร็ว โดยกดปุ่ม C สั้นๆ 1ครั้ง ความเร็วจะเพิ่ม 1.6กม./ชม.ทุกครั้งที่กด ต้องการความเร็วเท่าไร ก็กดเพิ่มไปเรื่องๆ
ถ้าจะลดความเร็ว ก็กดปุ่ม B  ลงไปเรื่อยๆ  

สรุป คือ เพิ่มความเร็ว กดปุ่มบน (C) ลดความเร็ว กดปุ่มล่าง (B) มันเป็นเสมือนคันเร่งมือควบคุมด้วยนิ้วโป้งแทนขาขวา

ถ้าต้องการเร่งแซงก็ใช้ขาขวาเหยียบคันเร่งแซงขึ้นไป เมื่อยกเท้าออก ความเร็วก็กลับมาที่ระบบครูชเหมือนเดิม
 
3.ถ้าจะยกเลิกการควบคุมชั่วขณะ กดปุม D หรือเมื่อมีการเหยียบเบรค  
ถ้าจะเริ่มใหม่ ก็ทำตามข้อ 2

4.ยกเลิกปิดระบบครูช ก็กดปุมA อีกที ไฟcruise จะดับยกความเร็วเดิมท
ลองฝึกดูครับ แนะนำให้ฝึกถนนโล่งๆหน่อย
เมื่อชำนาญแล้ว บนทางด่วนที่รถวิ่งตามกันห่างๆ ใช้ระบบนี้สบายมาก ลดอาการเมื่อขาไปได้เยอะ เพราะรถค่ายนี้คันเร่งมันแข็งพอสมควร  Smiley
เสียดายน้อง มิราจไม่มีระบบนี้มาด้วย เพราะผมใช้วิ่งไปทำงานทุกวัน

ผมขออนุญาตอธิบายเพื่มจากป๊าอีกนิดนึงครับ

**สำหรับปุ่ม C เราสามารถเรียกความเร็วเดิมล่าสุดที่เราใช่หลังจากที่เราเหยียบเบรคหรือว่าเราสั่งยกเลิกชั่วคราว ปุ่ม D
ด้วยการกดปุ่ม C ได้เลยครับรถจะเพิ่มความเร็วไปถึงความเร็วล่าสุดครับ

ปล. ถ้าความเร็วต่างกันมากเดรื่องมันจะเชนเกียร์เองอัตโนมัตต้องระวังอย่าตกใจครับ

วันนี้ใด้มีโอกาศใด้ลองใช้แล้วครับชอบมากครับ Cheesy Cheesy
บันทึกการเข้า
Snowi
Newbie
*

like: 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 114


อีเมล์
« ตอบ #34 เมื่อ: มิถุนายน 03, 2012, 01:46:21 pm »

ดีครับ ใช้บ่อยๆ เดี๋ยวก็คล่อง

เราซื้อรถมาสมมุติราคา 100 บาท  ก็ใช้ให้มันคุ้ม 100บาทครับ  Smiley


อันนี้เอามาเปรียบเทียบให้ดู  เป็นรถอีกคัน ของน้องโต
จะเห็นว่า ตัวระบบครูท เป็นก้านโยก อยู่ด้านหลัง อยู่ใต้ก้านไฟเลี้ยว
เวลาใช้งานผมต้องควบคุมด้วยนิ้วกลางหรือนิ้วนางขวา ซึ่งใช้ไม่ค่อยคล่องตัวเท่าของน้องปาเพราะอยู่ข้างบนใช้นิ้วโป้งขวาควบคุม
เลยใช้งานง่ายกว่าน้องโตเยอะ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 03, 2012, 01:51:35 pm โดย Snowi » บันทึกการเข้า
Spj_BMW
Newbie
*

like: 1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 159


**ครอบครัวต้องมาก่อน**


อีเมล์
« ตอบ #35 เมื่อ: มิถุนายน 03, 2012, 02:08:51 pm »

สรุป การใช้งาน ตามที่ท่านๆข้างบนได้อธิบายไว้นะครับ
ระบบนี้จะทำงานที่ความเร็วเกิน 40กม./ชม. ขึ้นไป

1.เปิดระบบครูช
-กดปุ่ม A ไฟสีเขียว cruise ติดที่มุมบนหน้าปัทม์ซ้าย

2.เมื่อวิ่งด้วยความเร็วที่ต้องการ กดปุ่ม B เพื่อจำค่า รอ 2-3วินาที ยกขาออกจากคันเร่งมานั่งพับเพียบได้เลย (ล้อเล่นครับ ไม่ควรทำ)
ถึงตอนนี้รถจะวิ่งด้วยความเร็วคงที่ไปตลอดเส้นทาง
เราสามารถเพิ่มความเร็ว โดยกดปุ่ม C สั้นๆ 1ครั้ง ความเร็วจะเพิ่ม 1.6กม./ชม.ทุกครั้งที่กด ต้องการความเร็วเท่าไร ก็กดเพิ่มไปเรื่องๆ
ถ้าจะลดความเร็ว ก็กดปุ่ม B  ลงไปเรื่อยๆ  

สรุป คือ เพิ่มความเร็ว กดปุ่มบน (C) ลดความเร็ว กดปุ่มล่าง (B) มันเป็นเสมือนคันเร่งมือควบคุมด้วยนิ้วโป้งแทนขาขวา

ถ้าต้องการเร่งแซงก็ใช้ขาขวาเหยียบคันเร่งแซงขึ้นไป เมื่อยกเท้าออก ความเร็วก็กลับมาที่ระบบครูชเหมือนเดิม
 
3.ถ้าจะยกเลิกการควบคุมชั่วขณะ กดปุม D หรือเมื่อมีการเหยียบเบรค  
ถ้าจะเริ่มใหม่ ก็ทำตามข้อ 2

4.ยกเลิกปิดระบบครูช ก็กดปุมA อีกที ไฟcruise จะดับยกความเร็วเดิมท
ลองฝึกดูครับ แนะนำให้ฝึกถนนโล่งๆหน่อย
เมื่อชำนาญแล้ว บนทางด่วนที่รถวิ่งตามกันห่างๆ ใช้ระบบนี้สบายมาก ลดอาการเมื่อขาไปได้เยอะ เพราะรถค่ายนี้คันเร่งมันแข็งพอสมควร  Smiley
เสียดายน้อง มิราจไม่มีระบบนี้มาด้วย เพราะผมใช้วิ่งไปทำงานทุกวัน

ผมขออนุญาตอธิบายเพื่มจากป๊าอีกนิดนึงครับ

**สำหรับปุ่ม C เราสามารถเรียกความเร็วเดิมล่าสุดที่เราใช่หลังจากที่เราเหยียบเบรคหรือว่าเราสั่งยกเลิกชั่วคราว ปุ่ม D
ด้วยการกดปุ่ม C ได้เลยครับรถจะเพิ่มความเร็วไปถึงความเร็วล่าสุดครับ

ปล. ถ้าความเร็วต่างกันมากเดรื่องมันจะเชนเกียร์เองอัตโนมัตต้องระวังอย่าตกใจครับ

วันนี้ใด้มีโอกาศใด้ลองใช้แล้วครับชอบมากครับ Cheesy Cheesy

ยินดีด้วยครับป๊า เรามีแล้วต้องใช้ให้คุ้มครับ555
บันทึกการเข้า
stock /ต๊อก
Full Member
***

like: 45
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1264


บ้านยุอุดร เฮ็ดงานยุกรุงเทพเด้อคร้าบบบบ


เว็บไซต์
« ตอบ #36 เมื่อ: มิถุนายน 03, 2012, 02:26:33 pm »

 like like like likeสุดยอดได้ความรู้เต็มๆ  สาธุ สาธุ สาธุ ป๋าๆ
บันทึกการเข้า

sab-racing
ID No.1045
Hero Member
*****

like: 89
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2337



« ตอบ #37 เมื่อ: มิถุนายน 03, 2012, 02:55:57 pm »

สรุป การใช้งาน ตามที่ท่านๆข้างบนได้อธิบายไว้นะครับ
ระบบนี้จะทำงานที่ความเร็วเกิน 40กม./ชม. ขึ้นไป

1.เปิดระบบครูช
-กดปุ่ม A ไฟสีเขียว cruise ติดที่มุมบนหน้าปัทม์ซ้าย

2.เมื่อวิ่งด้วยความเร็วที่ต้องการ กดปุ่ม B เพื่อจำค่า รอ 2-3วินาที ยกขาออกจากคันเร่งมานั่งพับเพียบได้เลย (ล้อเล่นครับ ไม่ควรทำ)
ถึงตอนนี้รถจะวิ่งด้วยความเร็วคงที่ไปตลอดเส้นทาง
เราสามารถเพิ่มความเร็ว โดยกดปุ่ม C สั้นๆ 1ครั้ง ความเร็วจะเพิ่ม 1.6กม./ชม.ทุกครั้งที่กด ต้องการความเร็วเท่าไร ก็กดเพิ่มไปเรื่องๆ
ถ้าจะลดความเร็ว ก็กดปุ่ม B  ลงไปเรื่อยๆ  

สรุป คือ เพิ่มความเร็ว กดปุ่มบน (C) ลดความเร็ว กดปุ่มล่าง (B) มันเป็นเสมือนคันเร่งมือควบคุมด้วยนิ้วโป้งแทนขาขวา

ถ้าต้องการเร่งแซงก็ใช้ขาขวาเหยียบคันเร่งแซงขึ้นไป เมื่อยกเท้าออก ความเร็วก็กลับมาที่ระบบครูชเหมือนเดิม
 
3.ถ้าจะยกเลิกการควบคุมชั่วขณะ กดปุม D หรือเมื่อมีการเหยียบเบรค  
ถ้าจะเริ่มใหม่ ก็ทำตามข้อ 2

4.ยกเลิกปิดระบบครูช ก็กดปุมA อีกที ไฟcruise จะดับยกความเร็วเดิมท
ลองฝึกดูครับ แนะนำให้ฝึกถนนโล่งๆหน่อย
เมื่อชำนาญแล้ว บนทางด่วนที่รถวิ่งตามกันห่างๆ ใช้ระบบนี้สบายมาก ลดอาการเมื่อขาไปได้เยอะ เพราะรถค่ายนี้คันเร่งมันแข็งพอสมควร  Smiley
เสียดายน้อง มิราจไม่มีระบบนี้มาด้วย เพราะผมใช้วิ่งไปทำงานทุกวัน

ผมขออนุญาตอธิบายเพื่มจากป๊าอีกนิดนึงครับ

**สำหรับปุ่ม C เราสามารถเรียกความเร็วเดิมล่าสุดที่เราใช่หลังจากที่เราเหยียบเบรคหรือว่าเราสั่งยกเลิกชั่วคราว ปุ่ม D
ด้วยการกดปุ่ม C ได้เลยครับรถจะเพิ่มความเร็วไปถึงความเร็วล่าสุดครับ

ปล. ถ้าความเร็วต่างกันมากเดรื่องมันจะเชนเกียร์เองอัตโนมัตต้องระวังอย่าตกใจครับ

วันนี้ใด้มีโอกาศใด้ลองใช้แล้วครับชอบมากครับ Cheesy Cheesy

ยินดีด้วยครับป๊า เรามีแล้วต้องใช้ให้คุ้มครับ555

 good ถูกต้องครับป๋ามีของแล้วเราต้องฝึกใช้ให้คล่องครับ พอคล่องแล้วจะติดใจเหมือนผมครับ ขอบอก  ยอดเยี่ยม like like red heart
บันทึกการเข้า
chalerm1980
ID. 1315
Newbie
*

like: 1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 91


chalerm1980@hotmail.com
อีเมล์
« ตอบ #38 เมื่อ: มิถุนายน 03, 2012, 03:58:59 pm »

มิตซูอุตส่าให้มาต้องใช้ให้คุ้มครับ
บันทึกการเข้า

<_>
Snowi
Newbie
*

like: 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 114


อีเมล์
« ตอบ #39 เมื่อ: มิถุนายน 03, 2012, 05:07:05 pm »

มาว่ากันต่อเรื่อง การใช้เกียรโหมดสปอท์ของน้องปา

ระบบเกียรแบบนี้ สมัยก่อนมันจะอยุ่ในรถ ซุปเปอร์คาร์เท่านั้น เราๆท่านๆ ได้แต่มองๆ จับๆ ในงานมอเตอร์โชว์
แม้แต่แบบแพดเด้อชิพ(ปุ่มหรือแป้นเปลี่ยนเกียรที่พวงมาลัย)  ก็มีใช้เฉพาะในรถแข่ง ฟอมูล่า 1 (F1) เท่านั้น
ใครจะไปคิดว่า ค่ายมิตซูจะใจป้ำ เอามาใส่ในรถ PPV  แม้SUV หรูๆ หลายๆรุ่นยังไม่มีให้ใช้เลย

แม้แต่ตัว Gwagon 4WD ตัวTop evolution(รุ่นส่งออกยุโรป) ที่ผมใช้ราคา ล้านสองเท่ากับน้องปาตอนนี้
ซื้อตอนนั้นได้แค่บอดี้ทรง PPV  เครื่อง ปาเจโรรุ่นส่งออก และชุดขับ 4WD เท่านั้น นอกนั้นก็เหมือนปิ๊กอัพสตารด้าดีๆนี่เอง


น้องปาของเราให้มาแบบครบเครื่องจริงๆ เลยได้ชื่อ Sport มาต่อท้าย Pajero เป็น Pajero Sportไงครับ


บันทึกการเข้า
sab-racing
ID No.1045
Hero Member
*****

like: 89
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2337



« ตอบ #40 เมื่อ: มิถุนายน 03, 2012, 05:22:32 pm »

มาว่ากันต่อเรื่อง การใช้เกียรโหมดสปอท์ของน้องปา

ระบบเกียรแบบนี้ สมัยก่อนมันจะอยุ่ในรถ ซุปเปอร์คาร์เท่านั้น เราๆท่านๆ ได้แต่มองๆ จับๆ ในงานมอเตอร์โชว์
แม้แต่แบบแพดเด้อชิพ(ปุ่มหรือแป้นเปลี่ยนเกียรที่พวงมาลัย)  ก็มีใช้เฉพาะในรถแข่ง ฟอมูล่า 1 (F1) เท่านั้น
ใครจะไปคิดว่า ค่ายมิตซูจะใจป้ำ เอามาใส่ในรถ PPV  แม้SUV หรูๆ หลายๆรุ่นยังไม่มีให้ใช้เลย

แม้แต่ตัว Gwagon 4WD ตัวTop evolution(รุ่นส่งออกยุโรป) ที่ผมใช้ราคา ล้านสองเท่ากับน้องปาตอนนี้
ซื้อตอนนั้นได้แค่บอดี้ทรง PPV  เครื่อง ปาเจโรรุ่นส่งออก และชุดขับ 4WD เท่านั้น นอกนั้นก็เหมือนปิ๊กอัพสตารด้าดีๆนี่เอง


น้องปาของเราให้มาแบบครบเครื่องจริงๆ เลยได้ชื่อ Sport มาต่อท้าย Pajero เป็น Pajero Sportไงครับ




    hi โอ้โฮเจอแล้วครับแฟนพันธ์แท้ มิซซูบิชิ มาเองเลยครับ like like สาธุ สาธุ
บันทึกการเข้า
Snowi
Newbie
*

like: 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 114


อีเมล์
« ตอบ #41 เมื่อ: มิถุนายน 03, 2012, 06:08:40 pm »

ต่อครับ ก่อนหน้านี้ผมมี  RCV อีกคัน ตอนนี้ขายเอาตังค์ไปสู่ขอน้องมิราจแล้ว
มันมีมีคำถามอยู่อันนึง ในคลับ CRV ถามผมว่า รถเกียร Auto ขณะขับๆ อยู่เราจะรู้ได้ยังไงว่าตอนนี้ รถเราวิ่งอยู่ที่เกียรอะไร
เออ ผมเองก็ไม่รู้ ต่อให้คนขับรถชำนาญ ก็ไม่สามารถตอบได้ครับ

แต่พอได้น้องปามา ก็ตอบได้แล้วเพราะระบบเกียรโหมดสปอทนี่แหละครับ
เราสามารถใช้ระบบนี้ได้ทั้งที่คันเกียร และ ที่แป้นแพดเด้อที่พวงมาลัย


วิธีใช้ก็ง่ายๆ ทดลองในที่โล่งๆหน่อย  คนที่เคยขับเกียรธรรมดา(กระปุก) จะง่ายหน่อยเพราะจะรู้จังหวะเปลี่ยนเกียรที่ระดับความเร็วต่างๆ


-จอดรถก่อน เหยียบเบรคค้างไว้ เข้าเกียร D แล้วผลักไปทางซ้าย (โซน 2)
ที่หน้าจอจะเปลี่ยนจาก D เป็นเลข 1


-ลองโยกคันเกียรไปด้าน + เลขจะเปลี่ยนเป็นเกียร 2 กดลง - เป็นเกียร 1  
-เช่นกันถ้า กดแป้นแพดเดอร์ +  -  เกียรก็จะเปลี่ยน 1,2
ตอนรถหยุดนิ่ง(เหยียบเบรคไว้) จะเปลี่ยได้แค่เกียร 1 ,2 เท่านั้นเพราะเป็นเกียรตั้งต้นในการออกต้ว แนะนำให้ออกตัวที่เกียร 1 ทุกครั้ง
เมื่อรถวิ่งจึงจะสามารถเปลี่ยน ไปได้จนถึงเกียร 5 ครับ
การออกจากโหมดสปอท ก็แค่โยคคันเกียรกลับมาที่ D เลขหน้าจอก็จะเปลี่ยนเป็น D

สำหรับเกียร แพดเด้อชิพที่พวงมาลัย สามารถทำงานได้เลยที่ตำแหน่ง D โดยที่ไม่ต้องผลักคันเกียรไปทางโซน 2
เปลี่ยขณะที่กำลังวิ่งอยู่ได้เลยโดยกดแป้น + 1ครั้ง ก็เข้าโหมดสปอททันที  ที่หน้าจอ จะแสดงเลขเกียรในขณะนั้นเลย เช่นความเร็วตอนนั้นอยู่ที่เกียร 4 จอก็จะแสดงเลข 4  เราก็สามารถควบคุมรถในโหมดสปอทได้เลย  (ตรงนี้แหละทำให้เราสามารถรู้ได้ว่ารถเรากำลังวิ่งอยู่ที่เกียรอะไร)

การออกจากโหมดสปอท ก็แค่กด แป้น + ค้างไว้สักครู่ ก็กลับมาโหมด Auto ตัวเลยเกียรก็จะกลับเป็น D

หมายเหตุ **** ห้ามกดแป้นแพดเด้อ + และ  - พร้อมกัน อาจเกิดข้อผิดพลาดในตำแหน่งเกียรได้****

ถ้าท่านที่ขับรถเกียรธรรมดาไม่เป็น ก็จะฝึกลำบากหน่อย ผมไม่แนะนำให้ใช้ หรือฝึกเองตามลำพังครับ เพราะถ้าเชนเกียรไม่เป็น มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุได้ครับ ควรมีพี่เลี้ยงที่ขับเกียรธรรมดาเป็นนั่งไปด้วย

ว่ากันต่ออีกหน่อย เรื่องความประหยัดน้ำมัน
สมัยก่อน  รถเกียรAuto จะกินน้ำมันมากกว่า รถเกียรธรรมดา ในรถรุ่นเดียวกัน
ทั้งนี้ก็เพราะว่า  เทคโนโลยีสมัยก่อน  เกียร Auto มักจะมีสเตปเกียร์น้อยกว่าเกียรธรรมดาเสมอ
เช่น รถเกียรธรรมดา จะมี 5เกียร(5 สเตป)    เกียร Auto จะมีแค่  4 สเตป
ปัจจุบัน เกียรธรรมดา มี 6 สเตป เกียร Auto มี 5 หรือ 6 สเตป(เช่นน้องเทลเบลเซอร์ มีมา 6สเตปเลย) เท่ากันเลยทีเดียว

อัตราทดของเฟืองเกียร ธรรมดา กับ Auto ที่เกียร แรก เกียรสุดท้าย จะเท่ากัน ต่างกันที่เกียรช่วงกลาง
ตัวอย่าง เกียรของรถมิตซู อีคาร์ในรุ่นแรก  เกียร์ธรรมดามี 5สเตป  แต่เกียร auto มีแค่ 3สเตป

ดังนั้นขณะทีรถออกวิ่งที่ความเร็วเท้ากัน การเปลี่ยนเกียรไปถึงเกียรสุดท้ายของเกียรธรรมดา จะผ่าน เกียรแรก(1) ,2,3,4, เกียรสุดท้าย(5)
แต่เกียร Auto จะเป็น เกียรแรก(1) ,2, เกียรสุดท้าย(3)

จะเห็นว่าเกียรAuto จะต้องลากรอบเครื่่องสูงกว่า จึงจะเปลี่ยนเกียรถัดไป จนถึงเกียรสุดท้าย เกียรธรรมดามีช่วงสเตปเกียรมากชั้นกว่าการเปลี่ยแต่ละช่วงเกียรจึงไม่ต้องใช้รอบสูงมากก็เปลี่ยได้แล้ว การที่เกียรAuto เปลี่ยนที่รอบสูงจึงทำให้กินน้ำมันมากว่า จะเห็นได้ชัดเมื่อวิ่งในเมือง

ถ้าใครเคยเล่นจักรยานพวกเสือหมอบ หรือเสือภูเขามาก่อน จะเข้าในง่ายว่า การเปลี่ยนเกียรมีผลต่อกำลังขาที่ต้องปั่นอย่างไร

สำหรับน้องปา ถ้าเราเลี้ยงรอบการเปลี่ยนเกียรเนียนๆ ในโหมดสปอท ก็น่าจะกินน้ำมันไม่ต่างกันมาก
ว่าแต่กว่า ชื่อมันก็บอกว่าโหมดสปอท เราจะไปห่วงเรื่องการประหยัดน้ำมันก็ใช่ที่  
เพราะเขาออกแบบมาเอาไว้ใช้ประโยชน์เฉพาะกิจ เพื่อช่วยให้การขับขี่ปลอดภัยมากขึ้น
เช่นตอนฝนตกถนลื่น วิ่งในทางเขา ทางชัน หรือในแอ่งโคลน เป็นต้น  


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 03, 2012, 06:12:20 pm โดย Snowi » บันทึกการเข้า
Tone2Tone
2.5GT MY12
Newbie
*

like: 1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55



« ตอบ #42 เมื่อ: มิถุนายน 03, 2012, 06:11:22 pm »

ไม่รู้มีป๋าท่านใดเป็นแบบผมหรือเปล่าน่ะครับ
(ใช้ MY12 2.5GT ขับมาได้1200 กม.) ทดลองใช้ครูชคอลโทรล
วิ่งทางไกล ช่วง กทม-ขอนแก่น ที่ความเร็ว 120 กม./ชม.
รู้สึกว่ารอบเครื่องจะสวิงขึ้น-ลงประมาณ 2200-2400 แต่ถ้าเหยียบเอง
จะไม่เป็น (รอบตามน้ำหนักเท้า) รู้สึกว่ารถมันเร่งๆผ่อนๆยังไงไม่รู้

แต่ยอมรับว่ามีประโยชน์จริงๆ ลดความเมื่อยเท้าขวาได้เยอะ(เพราะผมขับยาว5ชม.ไม่พัก รีบกลัวมืดก่อน)
แต่ตอนเหยียบเบรคแล้วกลับมาโหมดความเร็วเดิม ถ้าความเร็วแตกต่างกันมาก (สมมุติ 80 แล้วตั้งโหมดอยู่ 120)
รถเชนเกียร์ลงและคลิ๊คดาวเองรุนแรงมากเกิน ถ้าค่อยไต่ความเร็วขึ้นแบบเหยีบบเองจะ okมาก
บันทึกการเข้า

คนที่อยู่รอดได้จริง ๆ ไม่ใช่คนที่แข็งแกร่งที่สุด หากแต่คนที่ปรับตัวกับ
ความเปลี่ยนแปลงได้ดีที่สุดต่างหาก: Charles Darwin
Snowi
Newbie
*

like: 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 114


อีเมล์
« ตอบ #43 เมื่อ: มิถุนายน 03, 2012, 06:20:02 pm »

ถ้าช่วงถนน เป็นเนินขึ้นๆ ลงๆ เยอะ ระบบครูทจะเร่งๆ ลดๆ รอบเครื่องเพื่อให้ความเร็วคงที่ตลอดเวลา
ดังนั้น ถ้าขับในช่วงสภาพช่วงถนน แบบนี้ ให้ควบคุมรถเองจะดีกว่าครับ

ส่วนถ้ามีการลดความเร็วที่มีช่วงต่างกับค่าที่ตั้งไว้มาก ให้กดปุม D ควบคู่ไปพร้อมกับการเหยียบเบรคจะดีกว่าครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 03, 2012, 06:23:43 pm โดย Snowi » บันทึกการเข้า
stock /ต๊อก
Full Member
***

like: 45
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1264


บ้านยุอุดร เฮ็ดงานยุกรุงเทพเด้อคร้าบบบบ


เว็บไซต์
« ตอบ #44 เมื่อ: มิถุนายน 03, 2012, 09:02:01 pm »

สุดยอดจริงๆ สาธุ สาธุ สาธุ สาธุ สาธุ สาธุ
บันทึกการเข้า

หน้า: 1 2 [3]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.18 | SMF © 2006-2009, Simple Machines
by Pajerosport-Thailand TEAM
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.067 วินาที กับ 20 คำสั่ง