Languages
หน้า: [1] 2 3 4   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: น้ำดันเสียแล้ว  (อ่าน 22756 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
teddyisman
Jr. Member
**

like: 19
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 997


« เมื่อ: กรกฎาคม 24, 2012, 11:42:10 pm »

ปีครึ่ง กับระยะทางแสนโล  ยังไม่เปลี่ยนทามมิ่งเบลท์ กับปั้มน้ำ  กะไว้เปลี่ยนสักแสนสอง
จะพาลูกไปเที่ยวเชียงราย พุ่งออกจากสี่แยกไฟแดง ดับเฉย พอสตาร์ท ออกไปได้ อัดไปนิดเดียว เกจทีตั้งไว้ 99 ร้องเตือน
รีบจอดข้างทางดับเครื่อง เปิดดูถังพักน้ำเต็ม เดือดปุด  พอเครื่องเย็นเติมน้ำ สตาร์ทดู ฟองปุดตลอด

สรุป ปะเกนแตก งานเข้าแล้ว

เอารถจากพะเยา กลับขอนแก่น ข้ามเขาสี่ลูก  โอเวอร์ฮีต เกือบสิบครั้ง ต้องจอดบ่อยๆ
สังเกตว่าจะฮีต ตอนเปิดแอร์ไล่ฝ้าที่กระจกเพราะมองไม่เห็นทาง  หรือตอนขับรอบเกิน 1800  

ปกติ ขอนแก่น-พะเยา 650 กม ใช้เวลา 7 ชม. งานนี้  13 ชม. สุดเซ็ง  ขึ้นเขา เต่าเรียกพี่ 5km/hr กดนิดเดียว เกจทะลุ 100
ยังดีที่เอากลับมาขอนแก่นได้   ทิ้งไว้ยาว  ใช้แลนเซอร์ไปก่อนแล้วกัน  
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 25, 2012, 07:42:58 am โดย teddyisman » บันทึกการเข้า
Liverpool(ชาติ)
Hero Member
*****

like: 101
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8658

You'll Never Walk Alone


« ตอบ #1 เมื่อ: กรกฎาคม 24, 2012, 11:49:43 pm »

ขอให้น้องปากลับมาเหมือนเดิมไวไวครับ สาธุ สาธุ สาธุ
บันทึกการเข้า
dismo
Jr. Member
**

like: 5
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 386


อีเมล์
« ตอบ #2 เมื่อ: กรกฎาคม 25, 2012, 12:27:20 am »

   งานนี้  รอดตัวเพราะ  เครื่องมือวัด  ราคา เล็กๆ Satu

   ถ้าไม่มี  นึกไม่ออกเหมือนกัน  

   ขอให้  รถหายเร็วๆ  นะ ครับป๋า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 25, 2012, 12:37:37 am โดย dismo » บันทึกการเข้า
JAJA-RY
Jr. Member
**

like: 23
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 302



อีเมล์
« ตอบ #3 เมื่อ: กรกฎาคม 25, 2012, 08:20:25 am »

รถเดิมหรือมีการปรับแต่งอะไรมั้ยครับ ถ้ารถมีพ่วงกล่องจูนกล่องโอกาสที่จะเกิดมีสูงเพราะผมก็ดันไปสองรอบ จุดอ่อนของ 4D56 ก็ตรงตาน้ำระหว่างสูบนั่นหละครับเขาทำมาให้ระบายความร้อนของประเก็นแต่ด้วยที่ลูกสูบชิดมากมันเลยกลายเป็นจุดอ่อนเมื่อเราไปปรับแต่งให้เกิดการจุดระเบิดรุนแรงกว่าปกติ
บันทึกการเข้า
teddyisman
Jr. Member
**

like: 19
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 997


« ตอบ #4 เมื่อ: กรกฎาคม 25, 2012, 09:02:16 am »

ไม่ได้ใส่กล่อง ครับ ติด lpg ร่วมมาได้แปดหมื่นโล  แต่ตอนเกิดเหตุ ไม่ได้ใช้ lpg สองร้อยกว่า กม เพราะมันหมด แต่ก็คงมีผลสะสม เพราะมันแรงกว่าเดิม
เดิมน้ำยาล้างหัวฉีด  แต่คงไม่เกี่ยวกัน   มันเป็นตอนผมกดอัด ออกจากแยก  ปกติ จะออกแบบนิ่มๆ

ป๋า เคยทำมา
-ปะเกนเดิม หรือใช้ของอะไร
-น๊อตเดิม หรือใช้ของสตาด้า เอามาตัด เพืออัดปอนด์ให้มาก
-ฝาไม่โก่ง ไม่ต้องปาด ใช่ไหม
บันทึกการเข้า
PoR ลำลูกกา
No: 828
Full Member
***

like: 25
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1448


Love Suhr Custom Standard


« ตอบ #5 เมื่อ: กรกฎาคม 25, 2012, 09:12:06 am »



ผมเคยเป็นตอนขับ Civic ตาโต...
วิธีแก้ผม... แวะปั๊มก่อน ฉี่ให้เรียบร้อย... แว๊กกกกก...

ก็ต้องมีผ้าติดรถด้วย... น้ำเต็มหม้อพัก (ไหลย้อน) แสดงว่าน้ำในหม้อน้ำ และระบบมีน้อย เลยทำให้เครื่องร้อน...
ก็เปิดฝาหม้อน้ำ (ระวังหน่อย) ตอนร้อนน้ำจะพุ่งออกมา เพราะน้ำเดือด ก่อนเปิดก็คลุมผ้าไว้ ไม่ให้น้ำร้อนกระฉอก แล้วก็ค่อยๆ เปิดฝาหม้อน้ำทีละหน่อย ช้่าๆ จนน้ำร้อนออกมา... ค่อยเอาฝาออก ทีนี้น้ำจะเดือดปุดๆ เลย ต้องระวัง
จา่กนั้นก็วิ่งรอบ กรอกน้ำ จากห้องน้ำ (ก็อกน้ำ) มันจะมีจังหวะบอกว่าน้ำเต็ม จากนั้นก็ปิดฝา เทน้ำหม้อพักทิ้ง เติมแค่พอระดับ MAX ดับเครื่อง รอสักพัก นอนสักตื่น สักครึ่งชั่วโมง น้ำในหม้อพักจะถูกดูดเข้าไปบ้าง ก็เติมให้อยู่ระดับ MAX


จากประสบการณ์นะครับ พอให้วิ่งแบบไม่เกิน 100 กม./ชม. ได้สัก 300 กม. จากนั้นความร้อนจะมาใหม่... ก็เริ่มทำใหม่... หาปั๊มใกล้ๆ เข้า




ความเห็นส่วนตัวนะครับ ผมวิ่ง ชลบุรี เชียงใหม่ บ่อย ต้องเตรียมพร้อมกับเรื่องแบบนี้....
ปล. เจ้าตาโตผม ติดแก็ส ขี้ีร้อนมาก ถ้าขับไกลๆ
บันทึกการเข้า

ลากันที... ศูนย์ห่วยๆ...
JAJA-RY
Jr. Member
**

like: 23
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 302



อีเมล์
« ตอบ #6 เมื่อ: กรกฎาคม 25, 2012, 10:22:21 am »

ไม่ได้ใส่กล่อง ครับ ติด lpg ร่วมมาได้แปดหมื่นโล  แต่ตอนเกิดเหตุ ไม่ได้ใช้ lpg สองร้อยกว่า กม เพราะมันหมด แต่ก็คงมีผลสะสม เพราะมันแรงกว่าเดิม
เดิมน้ำยาล้างหัวฉีด  แต่คงไม่เกี่ยวกัน   มันเป็นตอนผมกดอัด ออกจากแยก  ปกติ จะออกแบบนิ่มๆ

ป๋า เคยทำมา
-ปะเกนเดิม หรือใช้ของอะไร
-น๊อตเดิม หรือใช้ของสตาด้า เอามาตัด เพืออัดปอนด์ให้มาก
-ฝาไม่โก่ง ไม่ต้องปาด ใช่ไหม
ถ้าไปซ่อมก็จูน gas ลดลงด้วยนะครับเพื่อลดความร้อนส่วนการซ่อมก็ตามนั้นครับ
- ถ้าไม่ได้ปาดฝาก็เปลี่ยนใช้ประเก็นขนาดเท่าเดิมหรือเอาที่หนากว่าเดิมอีกไซด์นึงก็ได้ครับของศูนย์มี 3 ขนาด ก่อนใส่ก็พ่นสเปร์ทองแดงที่ประเก็นสักสามรอบ
- ส่วนน็อตก็ใช้ของสตราด้าก็ได้ครับ
- ฝาถ้าไม่โก่งไม่ต้องปาดครับแต่จากเหตุกาณ์ที่เล่ามาระยะทางที่ใช้งานหลังเกิดเหตุค่อนข้างไกลคาดว่าน่าจะมีการโก่งตัวนิดหน่อยคงต้องปาดแล้วขยับประเก็นหนากว่าเดิมๆ 1 size
-อย่าลืมตรวจสอบ วาล์วน้ำ ปั้มน้ำ ฝาหม้อน้ำ ฟรีปั้มพัดลม ด้วยนะครับไหนๆก็ได้รื้อออกมาแล้ว
*** ทำรอบนี้แล้วยังไม่หายคงต้องอุดตาน้ำระหว่างสูบแล้วหละครับ เพราะผมมาจบที่อุดตาน้ำนี้หละครับ
ขออนุญาติยืมรูปรถสมาชิกน้ำดัน น้าเบียร์จาก ไทรทันคลับมาให้ดูว่าอุดแบบไหนนะครับพอดีของผมไม่ได้ถ่ายไว้
บันทึกการเข้า
TAYONG
Full Member
***

like: 57
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1218


ปาเจโร่โซนตะวันตก ป๋าโย่ง คอนถมทีม 082-350-23สามห้า


อีเมล์
« ตอบ #7 เมื่อ: กรกฎาคม 25, 2012, 09:44:25 pm »

ไม่ได้ใส่กล่อง ครับ ติด lpg ร่วมมาได้แปดหมื่นโล  แต่ตอนเกิดเหตุ ไม่ได้ใช้ lpg สองร้อยกว่า กม เพราะมันหมด แต่ก็คงมีผลสะสม เพราะมันแรงกว่าเดิม
เดิมน้ำยาล้างหัวฉีด  แต่คงไม่เกี่ยวกัน   มันเป็นตอนผมกดอัด ออกจากแยก  ปกติ จะออกแบบนิ่มๆ

ป๋า เคยทำมา
-ปะเกนเดิม หรือใช้ของอะไร
-น๊อตเดิม หรือใช้ของสตาด้า เอามาตัด เพืออัดปอนด์ให้มาก
-ฝาไม่โก่ง ไม่ต้องปาด ใช่ไหม
ถ้าไปซ่อมก็จูน gas ลดลงด้วยนะครับเพื่อลดความร้อนส่วนการซ่อมก็ตามนั้นครับ
- ถ้าไม่ได้ปาดฝาก็เปลี่ยนใช้ประเก็นขนาดเท่าเดิมหรือเอาที่หนากว่าเดิมอีกไซด์นึงก็ได้ครับของศูนย์มี 3 ขนาด ก่อนใส่ก็พ่นสเปร์ทองแดงที่ประเก็นสักสามรอบ
- ส่วนน็อตก็ใช้ของสตราด้าก็ได้ครับ
- ฝาถ้าไม่โก่งไม่ต้องปาดครับแต่จากเหตุกาณ์ที่เล่ามาระยะทางที่ใช้งานหลังเกิดเหตุค่อนข้างไกลคาดว่าน่าจะมีการโก่งตัวนิดหน่อยคงต้องปาดแล้วขยับประเก็นหนากว่าเดิมๆ 1 size
-อย่าลืมตรวจสอบ วาล์วน้ำ ปั้มน้ำ ฝาหม้อน้ำ ฟรีปั้มพัดลม ด้วยนะครับไหนๆก็ได้รื้อออกมาแล้ว
*** ทำรอบนี้แล้วยังไม่หายคงต้องอุดตาน้ำระหว่างสูบแล้วหละครับ เพราะผมมาจบที่อุดตาน้ำนี้หละครับ
ขออนุญาติยืมรูปรถสมาชิกน้ำดัน น้าเบียร์จาก ไทรทันคลับมาให้ดูว่าอุดแบบไหนนะครับพอดีของผมไม่ได้ถ่ายไว้

ยอดเยี่ยม  ยอดเยี่ยม  ยอดเยี่ยม แจ่มเลยครับ 
บันทึกการเข้า
teddyisman
Jr. Member
**

like: 19
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 997


« ตอบ #8 เมื่อ: กรกฎาคม 27, 2012, 04:27:57 pm »

ยังจอดทิ้งไว้บ้าน ใช้แลนเซอร์ไปพลาง 
สัปดาห์หน้า มีเวลา ค่อยเอาไปไว้ศูนย์
เปลี่ยนตามเชคระยะ แสนโล

ปะเกน กะให้เปลี่ยนแบบเดิมๆไปก่อน
ถ้าฝาไม่โก่ง ไม่ไส

จะมาแก้เรื่องระบายร้อนก่อน
-ป้ายทะเบียนบังลม
-กันชนบังลม 
บันทึกการเข้า
Joe ผู้ชาย*รสส้ม*
PJS.Thai.ID.017
Hero Member
*****

like: 50
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2629


ชิ นะ ปัญ ชะ ระ ปะ ริ ตัง มัง รัก ขะ ตุ สัพ พะ ทา


« ตอบ #9 เมื่อ: กรกฎาคม 29, 2012, 11:25:31 am »

รอรอฟังข้อมูลค๊าบ คริๆๆๆๆ(ล้อเล่นจร้า)

เอาจากประสบการณ์จริงของผม(คนเดียว)ครับ

ความร้อนสะสม จนปะเก็นเปื่อย และจนในที่สุด ความอดทนของปะเก็นก็หมดลง
จนทำให้ แรงดันเพียงแค่ บาร์5 ทำให้น้ำวิ่งข้ามช่อง แรงดันในห้องอัด ดันน้ำออกมาสู่ภายนอก
(หรือที่เค๊าเรียกว่าน้ำดันนั่นล่ะครับ)ภาษาอาจจะอ่านยากหน่อยนะครับ

แล้วผมแก้ไขอย่างไร(ในเบื้องต้น)ตอนเกิดเหตุ
ผมก็จอดรถ ดับเครื่อง ล็อครถ(ไม่ต้องดูอะไรล๊ะเห็นน้ำเขียวไหลลงด้านซ้าย555ชัวร์)น้ำดันครับ
เดินเข้าร้านกาแฟ หาไรเย็นๆทานไปเกือบชั่วโมงครับ  แล้วเดินกลับมาที่รถ
เริ่มล๊ะ...เปิดรถเปิดฝากระโปรงรถ เปิดฝาหม้อน้ำ เปิดฝาน้ำมันเครื่อง(ส่วนตัวจริงๆครับ)
เติมน้ำให้เต็มระบบ ถึงแม้จะเติมไปแล้วดันออกก็จะเติมครับ555+(ตอนวิ่งนะครับ)
เช็คน้ำให้เต็มทุกจุด เช็คน้ำมันเครื่องด้วยครับว่า ขาวมั๊ย ถ้าขาว+ขาดเติมให้ได้ระดับครับ
สตาร์ทรถดูครับว่าดันออกระดับไหน ถ้ามาก+ระยะทางเหลืออีกเยอะกว่าจะถึงจุดหมาย(เรียกรถยก)
ถ้าดันนิดหน่อย ขับไปเรื่อยๆได้ครับ แต่ต้องคุมบู๊ทให้อยู่ ห้ามบู๊ทหนักๆครับ
และหมั่นจอดรถเช็คน้ำครับ ... อีซู..ผมน้ำดันจากเพชรบุรี วิ่งกลับบ้านงามวงศ์วาน เช็คประมาณ10 ครั้งครับ

ส่วนการแก้ไข ทำตามความเสียหายครับ
..เปลี่ยนปะเก็น (ศูนย์มี ABC และหลายรุ่นรถ เพราะโค๊ตคนล๊ะปี)4D 56 ปี.....
..ปาดฝา(ถ้าโก่ง และต้องเพิ่มขนาดความหนาของปะเก็นตามหรือ..)
..ทำฝาหลบวาวล์(แก้ไขแบบรถสนาม ใช้ได้ดี)
..ตอกลิ่มปิดตาน้ำ(แก้ไขแบบดิบๆแต่เอาอยู่)
..เปลี่ยนน็อตฝาสูบ(ปอนด์สูงๆ)
..เปลี่ยนหม้อน้ำ(ถ้าตัน)

เด๋วมาต่อครับ จะมีหัวข้อย่อยแจกแจงอีกเยอะครับ
สำหรับเรื่องน้ำดันอย่างเดียวครับ red heart
บันทึกการเข้า

...จะไปเอาอะไรมากมาย..กับผู้ชาย*รสส้ม*...
darkisumi
Jr. Member
**

like: 19
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 836


ปาเทาดำ No.0606 ไร่ขิง-สามพราน


อีเมล์
« ตอบ #10 เมื่อ: กรกฎาคม 29, 2012, 12:09:05 pm »

รอฟังความรู้ดีๆ เพราะผมก้อเสียวๆเหมือนกันคร้าบ
บันทึกการเข้า

ใครๆก็เรียกผมว่า "น้อง" เพราะผมชื่อ "น้อง"
MY2012 2WD GT, Suspension : Tein SuperStreet with EDFC
teddyisman
Jr. Member
**

like: 19
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 997


« ตอบ #11 เมื่อ: กรกฎาคม 29, 2012, 01:28:44 pm »

รอข้อมูลเพิ่มครับป๋า

รถผมดันไม่มาก เปิดดูมีแค่ฟอง เหมือนฟองปลากัด  ไปได้เรื่อยที่ความเร็วต่ำ รอบไม่เกินพันห้า
ถ้าเผลอกดเกินสองพัน ก็นับไม่ถึงสิบมันก็เพิ่มจาก 90 เป็น 100 ในพริบตา ต้องจอดดับเครื่องอย่างเดียว
ไม่ถึงสิบนาที ก็ปกติ

นี่ถ้าผมไม่ต้องใช้รถข้ามเขาประจำ คงจะใช้ไปเรื่อยๆก่อน ไว้ครบหมื่นโล ค่อยไปเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและทำชุดใหญ่
แต่คงไม่รอปานนั้น เพราะเอาแลนเซอร์วิ่งข้ามเขา มันอืดอัดที่สุด กดแล้วไม่ปรูด แรงแต่เสียง
บันทึกการเข้า
Joe ผู้ชาย*รสส้ม*
PJS.Thai.ID.017
Hero Member
*****

like: 50
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2629


ชิ นะ ปัญ ชะ ระ ปะ ริ ตัง มัง รัก ขะ ตุ สัพ พะ ทา


« ตอบ #12 เมื่อ: กรกฎาคม 29, 2012, 02:00:54 pm »

ป๋าเอารถเข้า0เพื่อเปลี่ยนปะเก็น+อัดปอนท์ น็อตฝาสูบเพิ่ม

และถ้าใช้แก๊สร่วม ลองปรึกษาปัญหากับช่างดูครับว่าจะจูนอย่างไร

เพื่อไม่ให้ มีความร้อนในห้องอัด+เผาไหม้สูงเกินไปครับ

ส่วนการซ่อมแซมเด๋วผมมาแชร์อีกครั้งนะครับ

เพราะมีหลายสูตรมากตามปัญหาที่เกิดขึ้นหลายแบบครับ red heart
บันทึกการเข้า

...จะไปเอาอะไรมากมาย..กับผู้ชาย*รสส้ม*...
GINO
Jr. Member
**

like: 13
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 725


หนึ่งก้าวที่มั่นคง...แม้จะสั้นแต่มั่นใจ...


อีเมล์
« ตอบ #13 เมื่อ: กรกฎาคม 29, 2012, 03:35:57 pm »

ตอนนี้ยังไม่ดัน  แต่มารอฟังป๋าโจ้ กูรูน้ำดัน  และขอถามป๋าโจ้เพิ่มหน่อยครับว่า  ตอนนี้ยังไม่ดันมีวิธีป้องกันไม่ให้ดันไหมครับ Smiley Smiley Smiley
บันทึกการเข้า

หนึ่งก้าวที่ยาวไกล...อาจไหวหวั่นและล้มลง...
Joe ผู้ชาย*รสส้ม*
PJS.Thai.ID.017
Hero Member
*****

like: 50
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2629


ชิ นะ ปัญ ชะ ระ ปะ ริ ตัง มัง รัก ขะ ตุ สัพ พะ ทา


« ตอบ #14 เมื่อ: กรกฎาคม 30, 2012, 12:46:55 pm »

ตอนนี้ยังไม่ดัน  แต่มารอฟังป๋าโจ้ กูรูน้ำดัน  และขอถามป๋าโจ้เพิ่มหน่อยครับว่า  ตอนนี้ยังไม่ดันมีวิธีป้องกันไม่ให้ดันไหมครับ Smiley Smiley Smiley
พยายามอย่าบู๊ทสูงครับป๋า ถ้าใส่กล่อง...ก็อย่าจูนให้เลยค่าความปลอดภัยของเครื่องนั้นๆครับ

กลไกดูดอัดระเบิดคาย ต้องสัมพันธ์กันครับ ขาดเกินก็ไม่ดีครับ

แต่ถ้าต้องการความสะใจวัยรุ่น ก็จัดเต็มกันไปเลยครับ(พังแน่ๆครับ)

ไทรทันผม4D56 โม 250 ม้า(ในอดีต) พังประจำครับบู๊ท 2 บาร์ครับ

แต่พอมาเป็นปาเจโร่4 M41 พื้นฐานเครื่องดีกว่ามากๆครับ(เครื่องเดิมๆครับ)

เพราะรถปาเจโร่ ถ้าพูดถึงกลุ่มผู้ใช้ส่วนใหญ่ จะซื้อมาใช้สำหรับครอบครัวครับ

น้อยคันมากที่ต้องการแรงแบบสะใจครับ เพราะฉะนั้นกลุ่มคนใช้รถเดิมๆจึงมีมากกว่า

และการสึกหรอเสื่อมสภาพ จึงน้อยกว่ารถที่ปรับแต่งเครื่องยนต์เพิ่มครับ

    ระยะเวลาการเสื่อมของปะเก็น ในอดีต ต้องยอมรับว่า ชิ้นส่วนอะไหล่นั้นทนกว่า
การเสื่อมสภาพก็นานกว่า ด้วยกำลังของเครื่องยนต์ที่มีแรงม้าน้อยในอดีต ก็มีส่วน
แต่ในปัจจุบัน เครื่อง บล็อคเดิม แต่ปรับปรุง จนสามารถเพิ่มแรงม้าได้มากในปัจจุบัน
การสึกหรอจึงไวขึ้นเป็นเรื่องธรรมดาครับ

ส่วนตัว...ผมเปลี่ยนปะเก็น ตอน120000 กิโลครับ หรือเปลี่ยนพร้อมสายพายไทม์มิ่งเลยก็ได้ครับ
แต่ต้องเปลี่ยนน็อตเสาเสื้อด้วยครับ
บันทึกการเข้า

...จะไปเอาอะไรมากมาย..กับผู้ชาย*รสส้ม*...
หน้า: [1] 2 3 4   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.18 | SMF © 2006-2009, Simple Machines
by Pajerosport-Thailand TEAM
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.059 วินาที กับ 20 คำสั่ง