น้ำดันเสียแล้ว

[Gee]

เข้ามาเก็บข้อมูล เดี๋ยวอาทิตย์หน้าได้รถเปลี่ยน คงต้องเอาไปเปิดฝาดูบ้าง   

[Joe ผู้ชาย*รสส้ม*]

ตอนนี้ยังไม่ดัน  แต่มารอฟังป๋าโจ้ กูรูน้ำดัน  และขอถามป๋าโจ้เพิ่มหน่อยครับว่า  ตอนนี้ยังไม่ดันมีวิธีป้องกันไม่ให้ดันไหมครับ

พยายามอย่าบู๊ทสูงครับป๋า ถ้าใส่กล่อง...ก็อย่าจูนให้เลยค่าความปลอดภัยของเครื่องนั้นๆครับ

กลไกดูดอัดระเบิดคาย ต้องสัมพันธ์กันครับ ขาดเกินก็ไม่ดีครับ

แต่ถ้าต้องการความสะใจวัยรุ่น ก็จัดเต็มกันไปเลยครับ(พังแน่ๆครับ)

ไทรทันผม4D56 โม 250 ม้า(ในอดีต) พังประจำครับบู๊ท 2 บาร์ครับ

แต่พอมาเป็นปาเจโร่4 M41 พื้นฐานเครื่องดีกว่ามากๆครับ(เครื่องเดิมๆครับ)

เพราะรถปาเจโร่ ถ้าพูดถึงกลุ่มผู้ใช้ส่วนใหญ่ จะซื้อมาใช้สำหรับครอบครัวครับ

น้อยคันมากที่ต้องการแรงแบบสะใจครับ เพราะฉะนั้นกลุ่มคนใช้รถเดิมๆจึงมีมากกว่า

และการสึกหรอเสื่อมสภาพ จึงน้อยกว่ารถที่ปรับแต่งเครื่องยนต์เพิ่มครับ

    ระยะเวลาการเสื่อมของปะเก็น ในอดีต ต้องยอมรับว่า ชิ้นส่วนอะไหล่นั้นทนกว่า
การเสื่อมสภาพก็นานกว่า ด้วยกำลังของเครื่องยนต์ที่มีแรงม้าน้อยในอดีต ก็มีส่วน
แต่ในปัจจุบัน เครื่อง บล็อคเดิม แต่ปรับปรุง จนสามารถเพิ่มแรงม้าได้มากในปัจจุบัน
การสึกหรอจึงไวขึ้นเป็นเรื่องธรรมดาครับ

ส่วนตัว...ผมเปลี่ยนปะเก็น ตอน120000 กิโลครับ หรือเปลี่ยนพร้อมสายพายไทม์มิ่งเลยก็ได้ครับ
แต่ต้องเปลี่ยนน็อตเสาเสื้อด้วยครับ

[EnGiNeEriNg No.407]

เป็นไงบ้างครับ

[Joe ผู้ชาย*รสส้ม*]

เป็นไงบ้างครับ

คล้ายๆว่าจะดันอีกแล้วครับป๋า

วันนั้นซัดไปบาร์2 แช่ 10 กิโล ความร้อนมาเตือนอีกครั้งแล้วครับ (ความเร็ว 150 ตามไมล์ครับ)5 เซ็งเลยครับ

ต้องตรวจเช็ค ฟองอากาศอีกครั้งแล้วครับ

[teddyisman]

ถ้าเราอุดร่องระหว่างสูบ จำเป็นต้องถอดเสื้อสูบไปโรงกลึงไหม
แต่ถ้าตอกลิ่ม คงต้องถอดไปไสลิ่มให้ได้ระดับเสื้อ

อุดด้วยอีพอกซี มีคนเคยทำที่ไตรตันคลับ บอกว่าเอาไม่อยู่
แต่ถ้าเราตัดเหล็กให้พอดีกับร่อง แล้วใสอีพอกซีลงไปก่อน
แล้วยัดเหล็กตาม และกลบผิวด้วยอีพอกซี ปาดหน้าเสมอเสื้อ
แล้วขัดด้วยกระดาษทราบเบอร์ 1000 มันจะอยู่ไหม จะได้ไม่ต้องถอดเสื้อ

กะว่าดันความต่อไปจะลองแบบนี้ดู หรือ ป๋าท่านอื่นมีโอกาสเป็นหนูตะเภาไหม

[EnGiNeEriNg No.407]

เป็นไงบ้างครับ

คล้ายๆว่าจะดันอีกแล้วครับป๋า

วันนั้นซัดไปบาร์2 แช่ 10 กิโล ความร้อนมาเตือนอีกครั้งแล้วครับ (ความเร็ว 150 ตามไมล์ครับ)5 เซ็งเลยครับ

ต้องตรวจเช็ค ฟองอากาศอีกครั้งแล้วครับ

โอ้พระเจ้าจอจมันยอดมาก ถอดออกเลยครับกล่อง วิ่งมันอืดๆนี่ละสบายใจ....

[Joe ผู้ชาย*รสส้ม*]

เป็นไงบ้างครับ

คล้ายๆว่าจะดันอีกแล้วครับป๋า

วันนั้นซัดไปบาร์2 แช่ 10 กิโล ความร้อนมาเตือนอีกครั้งแล้วครับ (ความเร็ว 150 ตามไมล์ครับ)5 เซ็งเลยครับ

ต้องตรวจเช็ค ฟองอากาศอีกครั้งแล้วครับ

โอ้พระเจ้าจอจมันยอดมาก ถอดออกเลยครับกล่อง วิ่งมันอืดๆนี่ละสบายใจ....

สงสัยต้องขับเดิมๆแล้วครับป๋า 

[Joe ผู้ชาย*รสส้ม*]

ถ้าเราอุดร่องระหว่างสูบ จำเป็นต้องถอดเสื้อสูบไปโรงกลึงไหม
แต่ถ้าตอกลิ่ม คงต้องถอดไปไสลิ่มให้ได้ระดับเสื้อ

อุดด้วยอีพอกซี มีคนเคยทำที่ไตรตันคลับ บอกว่าเอาไม่อยู่
แต่ถ้าเราตัดเหล็กให้พอดีกับร่อง แล้วใสอีพอกซีลงไปก่อน
แล้วยัดเหล็กตาม และกลบผิวด้วยอีพอกซี ปาดหน้าเสมอเสื้อ
แล้วขัดด้วยกระดาษทราบเบอร์ 1000 มันจะอยู่ไหม จะได้ไม่ต้องถอดเสื้อ

กะว่าดันความต่อไปจะลองแบบนี้ดู หรือ ป๋าท่านอื่นมีโอกาสเป็นหนูตะเภาไหม

อุดตาน้ำ ต้องถอดเสื้อครับป๋า ชัวร์สุดครับ

อีพอกซี่ มันไม่ขึ้นรูบน แต่จะมีโอกาสลงล่างครับ

แล้วเศษ จะไปอุดหม้อน้ำครับ

เราอุดตาน้ำเฉพาะรูที่ชิดลูกสูบครับ

จะมีการหมุนเวียนของน้ำเหมือนเดิมครับ

[EnGiNeEriNg No.407]

เป็นไงบ้างครับ

คล้ายๆว่าจะดันอีกแล้วครับป๋า

วันนั้นซัดไปบาร์2 แช่ 10 กิโล ความร้อนมาเตือนอีกครั้งแล้วครับ (ความเร็ว 150 ตามไมล์ครับ)5 เซ็งเลยครับ

ต้องตรวจเช็ค ฟองอากาศอีกครั้งแล้วครับ

โอ้พระเจ้าจอจมันยอดมาก ถอดออกเลยครับกล่อง วิ่งมันอืดๆนี่ละสบายใจ....

สงสัยต้องขับเดิมๆแล้วครับป๋า 

เดิมแล้วครับ ตอนนี้ ไม่กล้าทำไรเลย....

[srnw7]

margin เหลือให้แต่งน้อยจริงๆ ไอ้ 4d56 เนี่ย ไม่น่าหลงออกเลย ไม่ค่อยจะทนตีนที่อัดหนัก สู้เครื่อง 3.0 เจ้าตลาด หรือ 3.2 4m41 ไม่ได้ ในเรื่อง modify และ endurance

[EnGiNeEriNg No.407]

margin เหลือให้แต่งน้อยจริงๆ ไอ้ 4d56 เนี่ย ไม่น่าหลงออกเลย ไม่ค่อยจะทนตีนที่อัดหนัก สู้เครื่อง 3.0 เจ้าตลาด หรือ 3.2 4m41 ไม่ได้ ในเรื่อง modify และ endurance

แบบว่าจูนมาสุดๆแล้วครับ 178แรงม้า ที่4000รอบ แต่ใช้ไม่เคยถึง4000รอบซักที....

[teddyisman]

หลังจากไปแก้ไข น้ำดันมา เปลี่ยนปะเกน และไสฝา มาแล้ว
พบว่า ความร้อนมากกว่าเดิม ประมาณ 3 องศา ไม่รู้ว่าเกิดจาก
แรงอัดเพิ่ม หรือ เกี่ยวกับปัญหาตั้งวาล์วไหม

ลงเปิดช่องกันชนให้ลมผ่านได้สะดวกไม่ดีขึ้น กะว่าตอนไปเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง
จะให้ศูนย์เขา เชคน๊อตฝา และ เชควาล์ว ไม่รู้จะยอมทำให้ไหม

แนวทางที่จะทำเอง คือ จะเปลี่ยนวาล์วน้ำ เป็นของนิสสัน ที่เปิดที่ 76.5
เหมือนกับเครื่อง 3.2

ทั้งนี้เพราะ เครื่อง 2.5 นี้วาล์วมันเปิดที่ 82.5  ซึ่งเปิดเต็มที่ 95 องศา มันมากไปไหม

ความคาดหวังที่เมื่อเปลี่ยนแล้ว คงเย็นกว่าเดิม มีพิกัด ที่จะอัดยาวได้บ้าง
แต่ก็คงแลกกับการกระเพื่อมมากของความร้อน ซึ่งมีผลต่อประสิทธิภาพเครื่องยนต์
แต่คนขับคงไม่รู้สึกกับข้อแตกต่าง  ขอให้เย็นลง จะสบายในกว่า

[EnGiNeEriNg No.407]

หลังจากไปแก้ไข น้ำดันมา เปลี่ยนปะเกน และไสฝา มาแล้ว
พบว่า ความร้อนมากกว่าเดิม ประมาณ 3 องศา ไม่รู้ว่าเกิดจาก
แรงอัดเพิ่ม หรือ เกี่ยวกับปัญหาตั้งวาล์วไหม

ลงเปิดช่องกันชนให้ลมผ่านได้สะดวกไม่ดีขึ้น กะว่าตอนไปเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง
จะให้ศูนย์เขา เชคน๊อตฝา และ เชควาล์ว ไม่รู้จะยอมทำให้ไหม

แนวทางที่จะทำเอง คือ จะเปลี่ยนวาล์วน้ำ เป็นของนิสสัน ที่เปิดที่ 76.5
เหมือนกับเครื่อง 3.2

ทั้งนี้เพราะ เครื่อง 2.5 นี้วาล์วมันเปิดที่ 82.5  ซึ่งเปิดเต็มที่ 95 องศา มันมากไปไหม

ความคาดหวังที่เมื่อเปลี่ยนแล้ว คงเย็นกว่าเดิม มีพิกัด ที่จะอัดยาวได้บ้าง
แต่ก็คงแลกกับการกระเพื่อมมากของความร้อน ซึ่งมีผลต่อประสิทธิภาพเครื่องยนต์
แต่คนขับคงไม่รู้สึกกับข้อแตกต่าง  ขอให้เย็นลง จะสบายในกว่า

มันมากกว่าเดิม 3องศาเยอะเลยครับป๋า ยังไงลองเช็คดูละกันครับ

[teddyisman]

วันนี้ ได้เจาะแผงกันชน ให้ลมเข้าไปหน้ารถสะดวก และ ล้างฟินของ inter  แอร์ และ หม้อน้ำ
ลองเอาไปขับดู ความร้อนยังขึ้นเร็วเหมือนเดิม กด 140 ไปสัก กิโลเมตร ECT 97-98  แล้ว แต่พอ
ปล่อยคันเร่ง ก็กลับมา 94 ได้ไว  ถ้าวาล์วกับปั๊มมีปัญหา ไม่น่าจะลงได้เร็ว  น่าจะอยู่ที่แรงอัดสูง
หรือระยะวาล์ว  ขับช้าๆไปก่อน พอครบระยะเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง จะเอาไปให้ศูนย์ เชคระยะวาล์ว
และกวดน๊อตฝาอีกครั้ง

[srnw7]

เดี๋ยวผมจะมาเล่าเหมือนกันนะ ใน case ผม รอให้เสร็จก่อน เดี๋ยวเล่าทีเดียว เฮ้อ อนาถแท้ 4d56 คุณพระ!!!