เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อวานนี้ขับรถ (ปา เบนซิน ติดแก๊สเรียบร้อยแล้ว) ออกจากที่ทำงานโรงเรียน ขับมาดีๆ สังเกตเห็นไฟเตือนน้ำมันเครื่องโชว์ที่แผงหน้าปัด (ปกติจะโชว์ก่อนสตาร์ทเครื่องและดับไป)
จึงจอดรถ และโทรเช็คศูนย์A ว่าเกิดอะไรขึ้น ศูนย์Aแนะนำให้จอดรถเข้าข้างถนนและตรวจเช็คระดับน้ำมัน....เลยเช็คน้ำมันเครื่องปรากฏว่า....โอ้ พระเจ้า เกลี้ยงหมดเลยครับ และบริเวณใต้ท้องห้องเครื่องมีน้ำมันเครื่องเต็มไปหมดและไหลหยดลงพื้นถนน (เวลา ห้าโมงเย็นกว่าๆ) โทรหาศูนย์อีกครั้งเพื่อหารถลากปรากฏว่า....เลิกงานหมดแล้วครับ....ก็เลยติดต่ออู่เอารถมาลาก(ค่าลาก 3,500)
ระยะทางประมาณ 15 กิโล ลากไปไว้ที่อู่ก่อนพรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่.......
เกือบเป็นเรื่อง คือว่า สันนิษฐานเบื้องต้น กรองน้ำมันเครื่องหลวม...ต้องหาคนจะรับผิดชอบ! ศูนย์A เปลี่ยนน้ำมันเครื่องครบ 10,000 ก.ม. (เปลี่ยนนัำมันเครื่องและกรองน้ำมันเครื่อง)
ศูนย์ B เปลี่ยนน้ำมันเครื่องที่ 15,000 ก.ม. (เปลี่ยนเฉพาะน้ำมันเครื่องไม่เปลี่ยนกรอง เพราะรถติดแก็ส) ตอนเกิดเหตุมาตรวัดที่ 16,260 ก.ม. ....ใครจะรับผิดชอบต่อเรื่องที่เกิดขึ้น
ศูนย์ B รับผิดชอบครั้งแรก.....นำช่างมาตรวจเช็ค....สรุปกรองน้ำมันเครื่องขันไม่แน่น....ไม่รับผิดชอบ! เพราะครั้งล่าสุดไม่ได้เปลี่ยนกรอง....ต้องให้ศูนย์ A รับผิดชอบ!
ศูนย์ A ไม่อยากมีเรื่อง ยอมรับผิด(ทั้งที่ไม่เต็มใจเท่าไหร่) ลืมบอกผมออกรถที่ศูนย์ A
สรุป....ศูนย์ A จะออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้ในการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องรอบถัดไป (น้ำมันเครื่องและกรอง รอบ 20,000 ก.ม.)
และ....ผมต้องเสียค่าลากรถ 3,500 รวมทั้งน้ำมันเครื่องและกรองอันใหม่ รวมแล้ว 4,500 บาท (โชคดีที่เห็นไฟเร็ว.....ไม่งั้นเรื่องยาว.....วว กว่านี้แน่)
เป็นไงครับขับรถดีๆ เสียเงิน 4,500
ขอบคุณครับที่ทนอ่านจนจบ....เอาไว้เป็นประสบการณ์แก่ป๋าท่านอื่นๆครับ